Mini Computer, Micro Computer, Notebook,
Tablet,Smart Phone
1.Super Computer
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดใหญ่และมีราคาสูง มีความเร็วในการประมวลผลถึง 1,000 ล้าน
คำสั่งต่อ 1 วินาที ภายในเครื่องมีหน่วยประมวลผลเป็นจำนวนมากทำให้สามารถประมวล
ผลคำสั่งหลายคำสั่งพร้อมกันได้ เหมาะสำหรับงานที่ต้องคำนวณผลซับซ้อน
และเป็นงานที่มีลักษณะเฉพาะด้าน เช่น การสำรวจแหล่งน้ำมัน การควบคุมสถานีอวกาศ
2.Mini Computer
มีลักษณะเดียวกันกับเครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ แต่มีขนาดเล็กกว่า และมีประสิทธิภาพต่ำกว่า
ทั้งในด้านความเร็วในการประมวลผล และความจุของหน่วยความจำ
ปัจจุบันองค์กรขนาดกลาง
และขนาดเล็ก จะนิยมใช้มินิคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องแม่ข่าย(Server) เพื่อควบคุมระบบเครือข่าย
ในองค์กร
3.Micro Computer
หรือที่เรียกว่า
เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal
Computer :PC)
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์
ที่เหมาะสำหรับการใช้งาน 1 คนต่อ 1 เครื่อง หรือ
ใช้เชื่อมต่อกับเครื่องในเครือข่าย
ไมโครคอมพิวเตอร์มีลักษณะการใช้งานง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก ราคาถูก
ตัวอย่างของ
ไมโครคอมพิวเตอร์ เช่น โน๊ตบุ๊ค เดสก์โน๊ต และแท็บเล็ตพีซี
4.Notebook
คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับพีซี
แต่จะมีขนาดเล็กและบางลง มีน้ำหนักเบา
สามารถพกพาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
และข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งคือ โน๊ตบุ๊คจะมีแบตเตอรี่ไว้
สำหรับการทำงานด้วย
ที่สำคัญราคาถูกลงกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ยังถือว่ามีราคาแพงกว่าพีซีธรรมดา
5.Teblet
เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้สามารถป้อนข้อมูลเข้าไปได้โดยการเขียนบนจอภาพเหมือนกับ
การเขียนข้อความลงไปในสมุดโน๊ต
และเครื่องสามารถที่จะแปลงข้อมูลต่างๆ เหล่านั้นเก็บไว้ได้
และบางเครื่องยังสามารถพลิกหน้าจอได้ 2 แบบ คือ เหมือนกับการใช้งานแบบโน๊ตบุ๊คหรือเหมือน
กับกระดานรองเขียนก็ได้
6.Smart Phone
เป็นกลุ่มของโทรศัพท์มือถือที่พัฒนาขีดความสามารถให้มีการทำงานได้ใกล้เคียงกับพีดีเอเป็น
อย่างมาก
โดยสมาร์ทโฟนสามารถที่จะใช้เป็นเครื่องโทรศัพท์ได้ในตัว
รวมถึงความสามารถอื่นๆ
เช่น กล้องถ่ายรูป การใช้งานอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ซึ่งคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ขึ้นอยู่กับระบบปฏิบัติการ
ที่ใช้ด้วยเช่นเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น